เรารักสุพรรณ สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี

กิจกรรมที่น่าสนใจ ในสุพรรณบุรี

งานแห่เทียนพรรษา สุพรรณบุรี 2561

     งานแห่เทียนพรรษา จังหวัดสุพรรณบุรี ในปี 2561 นี้ ทางจังหวัดสุพรรณบุรี จะจัดให้มีพิธีแห่เทียนพรรษา (ขบวนแห่เทียนพรรษา) ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2561  ...

ถนนหรรษา วินยานุโยค อู่ทอง สุพรรณบุรี

     "ถนนหรรษา วินยานุโยค" จัดขึ้นโดย สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง (อพท.7) ร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ ชาวบ้านชุมชนศรีสรรเพชญ์พัฒนา ชุมชนต้นแจงพัฒนา และชุมช...

ค่ำคืนอันเลวร้าย 3

Patipat Suwanmutcha

คุณมาลีและลูกสาวที่ยังนั่งอยู่ในรถมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งคู่ต่างร้องกรี๊ดกันออกมาด้วยความตกตะลึงที่คุณสมศักดิ์ถูกกระทำอย่างนั้น คุณมาลีอดรนทนไม่ได้ที่สามีของเธอถูกกระทำ

ด้วยความโมโหและเป็นห่วงสามีของเธอ จึงบอกลูกสาวที่นั่งอกสั่นขวัญแขวนอยู่เบาะหลัง

“อยู่นี่นะลูกอย่าลงจากรถอย่างเด็ดขาด แม่จะลงไปดูคุณพ่อเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ “

พลางเธอก็เปิดประตูผลุนผลันลงจากรถ วิ่งลงมาตรงที่คุณสมศักดิ์นอนคว่ำหน้าอยู่

คุณสมศักดิ์นอนคว่ำหน้าแล้วยกหัวโงขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดและมึนงง ก่อนที่คุณมาลีจะมาทรุดลงมานั่งข้างๆตัวคุณสมศักดิ์

คุณสมศักดิ์โงหัวขึ้นมาแล้วสั่นหัวไล่ความมึนงงจากที่โดนตบหน้าอย่างแรง ตรงหน้าผากเหนือคิ้วข้างขวาของเขามีรอยแตกเป็นแผล เลือดไหลออกมาอาบแก้ม

เนื่องจากที่คุณสมศักดิ์ล้มลงไปนั้น หน้าไปกระแทกกับหินก้อนหนึ่งจึงทำให้หน้าผากแตก ไม่ได้เกิดจากการโดนตบ

คุณมาลีทรุดนั่งแล้วประคองให้คุณสมศักดิ์ลุกขึ้นนั่ง
“ทำไมทำกันอย่างนี้ล่ะ ไหนบอกว่าให้ลงมาคุยกันดีๆไงล่ะ มึงเลวที่สุด ” พลางชี้หน้าคนที่ทำร้ายสามีของเธอ แล้วคุณมาลีก็ร้องไห้ด้วยความสงสารสามี เธอบ่นอะไรอีกสองสามคำ

“จะคุยกันดีๆได้ยังไง ก็บอกแล้วให้ลงมา ลงมา จนกูเกิดโมโหจึงต้องจัดการอย่างนี้แหละ” คนที่ตบคุณสมศักดิ์บอก แล้วหัวเราะด้วยความสะใจดังลั่น

“จัดการอีนี่ด้วยเลยเอาไม๊พี่ ตบแม่งสักทีสองทีฐานมันขัดขืน”

คนที่ผมสั้นเกรียนเหมือนเพิ่งโกนหัวที่ยืนอยู่หน้ารถบอก

“อย่าๆไปทำมัน ใจเย็นๆก่อน ราตรีนี้ยังอยู่อีกยาว มึงไปยืนคุมอีตัวลูกมันที่อยู่ในรถก็แล้วกัน”

คนร่างสูงผมหยิกหยักศกบอก ในขณะที่คนแต่งตัวสกปรกผมยาวรุงรังเป็นกระเซิงที่ยืนอยู่ท้ายรถ เดินเร่เข้ามาที่คุณสมศักดิ์และคุณมาลียืนอยู่

ท่ามกลางความมืดและเงียบสงัด คุณสมศักดิ์ลุกขึ้นยืนคุณมาลีประคองคุณสมศักดิ์ไว้

“มึงขับรถเฉี่ยวกระแทกรถกูจนตกถนน มึงจะว่าอย่างไร ”  มันถามพลางจ้องหน้าคุณสมศักดิ์เขม็ง

“จะว่าอย่างไรล่ะ ก็มึงไม่ใช่หรือที่ขับตามมาแล้ว มากระกระแทกรถของกู โดยไม่มีสาเหตุอะไรกันเลย”

“มึงอย่ามาแก้ตัวเลย อีตอแหล ก็ผัวมึงนั่นแหละที่กระแทกรถกู จนรถกูเกือบคว่ำ อย่างนี้มันหาเรื่องกันนี่หว่า ” คนที่เดินเข้ามาใหม่เนื้อตัวสกปรกพูดแล้วชี้มือไปที่รถของมัน

“เรื่องอะไรที่ผมจะมาแกล้งรถคุณ ” คุณสมศักดิ์พูดขึ้นบ้าง

“ผมอยู่ที่อื่นไม่ใช่คนที่นี่ ผมไม่รู้จักพวกคุณ ผมจะมาเยี่ยมญาติของผมในหมู่บ้านโน้น แล้วเป็นอะไรหรือผมจะต้องมาแกล้งพวกคุณ มาหาเรื่องกับพวกคุณ” คุณสมศักดิ์ยังคงพูดสุภาพกับพวกมันอยู่

“ดีแล้วละพวกมึงมาหาญาติของมึงหรือ เอาละเรื่องรถกระแทกกัน กูจะไม่เอาเรื่องกับพวกมึงแล้ว ” มันหยุดพูดนิดหนึ่ง

“บ้านญาติพวกมึงอยู่กันที่ไหนล่ะ มา มา เดี๋ยวพวกเราไปด้วยกัน กูจะไปส่งพวกมึงให้ถึงที่เลย เอาไม๊ล่ะ ” มันพูดแล้วจ้องคุณสมศักดิ์และคุณมาลีเขม็ง

“ไม่ต้องหรอก บ้านญาติผมไปอีกไม่ไกล ผมไปกันเองได้ เมื่อพวกคุณไม่เอาเรื่องอะไรแล้ว เราก็แยกทางกันต่างคนต่างไปก็หมดเรื่องแล้ว”

คุณสมศักดิ์บอกพร้อมกับเอาฝ่ามือปาดเลือดที่หัวคิ้ว ซึ่งเลือดกำลังจะไหลเข้าตา

“ไม่ได้ ไม่ได้ กูต้องไปส่ง ตกลงไม๊ล่ะ ”

“ไม่จำเป็นหรอก ผมขับไปได้เพราะว่าผมเคยมาหลายครั้งแล้ว คุณไม่ต้องห่วง ผมขอขอบคุณนะที่หวังดีกับพวกเรา” คุณสมศักดิ์บอก คุณมาลียืนอยู่ข้างๆพูดเสริมขึ้น

“อย่าดีกว่านะเลิกแล้วต่อกันไปดีกว่า ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป รับรองว่าจะไม่ไปแจ้งความโดยเด็ดขาดนะ”

ชายหนุ่มทั้งสามหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆกันด้วยเสียงอันดัง
“จะแน่ใจได้ยังไงที่ว่าพวกมึงจะไม่ไปแจ้งความน่ะหือ กูไม่เชื่อหรอก ไปเถอะพี่เอาพวกมันขึ้นรถกันเถอะ อย่าเสียเวลาเลย ” คนหัวเกรียนบอก คนที่หัวฟูผมยาวสนับสนุนด้วย

“เอามันขึ้นรถเลยดีกว่าแล้วขับตามกันไป ผัวมันเจ็บมันคงขับไม่ได้ เดี๋ยวกูขับเอง ไป ไป ขึ้นรถ”

ชายทั้งสามทำท่าจะเข้ามาผลักดันหลังคุณสมศักดิ์และคุณมาลี แต่ถึงขั้นนี้แล้วใครจะยอมไปตามที่พวกมันบอกง่ายๆ คุณสมศักดิ์และคุณมาลีจึงขัดขืน

ในตอนนั้นทำท่าจะชุลมุนผลักไสกันไปมาแล้ว อีกฝ่ายพยายามจะให้ขึ้นรถแต่อีกฝ่ายไม่ยอม เพราะคิดว่าถ้าขึ้นรถตามที่มันบอก อาจจะมีเหตุที่ไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ

คุณมาลีเข้ามาใกล้คุณสมศักดิ์แล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“คุณมีปืนทำไมไม่เอาออกมาขู่พวกมัน ชักออกมาเลยสิคุณ ”

คุณสมศักดิ์พยักหน้า พลางปาดเลือดที่ไหลออกมาที่ใบหน้า แต่ก็ยังรอจังหวะอยู่

“พวกมึงทำไมต้องมาบังคับกันอย่างนี้ กูทำอะไรให้พวกมึงถึงต้องมาทำกับกูอย่างนี้ ไอ้ลูกหมา”

คุณมาลีด่ากราดพลางชี้หน้าไอ้คนผมหยิกที่ตบคุณสมศักดิ์ล้มคว่ำ ยิ่งทำให้มันโกรธมากยิ่งขึ้น การที่ว่าจะมาเจรจากันดีๆอย่างที่พวกมันบอกนั้น เป็นอันหมดสิ้นลงแล้ว ที่จริงเป็นการบอกแบบหลอกๆกันนั่นเอง จุดประสงค์ของพวกมันคงมีอย่างอื่นเป็นแน่

“บอกกันดีๆแล้วนะมึง” คนผมฟูสกปรกตวาดเสียงดังลั่น พร้อมกับกระโดดถีบคุณมาลีหงายหลังลงไปกองกับพื้น

“อีนี่มึงจะสู้กูเหรอ ” คุณมาลีกองกับพื้นแล้วมันก็ยังปรี่เข้ามาจะกระทืบซ้ำอีก

“เดี๋ยวกูกระทืบตายคาตีนเลย ปั๊ทโธ่” มันสำรากออกมา คุณมาลีลุกขึ้นยืนในลักษณะอย่างนี้คงต่อสู้กับพวกมันไม่ได้แล้ว มีแต่จะเจ็บตัวและเจ็บใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

อินเดียนั่งอยู่ในรถมองเห็นเหตุการณ์ตลอด ร้องไห้โฮขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง อินเดียโตพอที่จะรู้อะไรต่างๆที่เกิดขึ้นแล้ว คิดขึ้นได้ว่าจะต้องโทรหา 191 แต่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไม่ได้ เพราะว่ามีคนผมเกรียนยืนคุมอยู่

โทรศัพท์ในตอนนี้ก็ใช้ได้แล้วมีสัญญาณเพียงเล็กน้อยก็คิดว่าใช้ในการโทรออกได้ เมื่อตอนที่รถวิ่งมาระหว่างทางนั้นโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณก็เป็นเพราะว่า รถกำลังวิ่งอยู่ในซอกเขานั่นเอง

คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคนที่ยืนคุมอยู่ต้องมองเห็นอย่างแน่นอน แต่ก็จะลองดูเผื่อว่าจะได้ผล เป็นไงเป็นกัน เห็นพ่อแม่ถูกซ้อมอย่างนั้นอินเดียก็ทนไม่ได้แล้ว

เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วกด 191 รอครู่เดียวได้ยินเสียงทางโน้นรับแล้ว เสียงออกมาว่า

“มีเหตุอะไรครับ โปรดแจ้งช้าๆ ชัดๆว่าเกิดเหตุอะไร บอกชื่อผู้แจ้ง สถานที่เกิดเหตุที่จะแจ้งด้วย ”

อินเดียไม่รู้เลยว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ตำบล ถนนอะไร อยู่ใกล้กับอะไร มีอะไรเป็นที่สังเกต เธอจึงอึกอัก เพราะว่าบอกไม่ถูก กำลังคิดอยู่นั่นเอง

เสียงประตูรถเปิดออกอย่างแรง คนที่ยืนคุมเธออยู่นั้นนั่นเองเป็นคนกระชากประตูเปิด แล้วเอื้อมมือมาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้

พร้อมกับกระชากเธออย่างแรง อินเดียตกจากรถลงมากองที่พื้น โทรศัพท์มือถือหลุดกระเด็นจากมือเธอ ไปหล่นที่พื้นเช่นเดียวกัน

“อีเด็กห่านี่หนอยแอบใช้โทรศัพท์ มึงนึกว่ากูไม่เห็นเหรออีสัตว์ ”

มันทำท่าจะเข้ามาทำร้ายอินเดียอีก อินเดียรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปหาพ่อและแม่ที่ยืนเจรจากับอีกคนหนึ่ง พร้อมร้องไห้โฮ

“แล้วมันโทรได้หรือเปล่าวะ ” คนผมหยิกถาม “ไม่ทันได้พูดหรอกกูเห็นเสียก่อน เลยกระชากแม่ง ลงมาจากรถซะเลย จะได้คุมมันได้ง่ายหน่อย เดี๋ยวพัด ” แล้วมันก็ทำท่าเงื้อตีนจะเตะอินเดียอีก

คุณมาลีวิ่งเข้าไปกอดลูกสาว ร้องไห้กันระงม

“พวกมึงทำอย่างงี้ได้ไง นี่เขาเด็กนะจะรู้เรื่องอะไรด้วย ไอ้ชาติหมา”

พลางสะอื้นไห้ ชี้หน้าด่ากราด พร้อมทั้งประคองลูกไปนั่งตรงก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง มองดูคุณสมศักดิ์สามีกำลังต่อรองกับไอ้ผมหยิกอยู่ โดยมีไอ้คนหัวเกรียนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ และเธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว

ท่ามกลางความมืดมิดและเงียบสงัด มีเพียงเสียงกบเขียดและสัตว์เล็กๆในตอนกลางคืนร้องกันระงมเท่านั้น

ทันใดนั้นมีแสงไฟของหน้ารถคันหนึ่งสว่างวาบมาแต่ไกล กำลังวิ่งตะบึงออกมาจากข้างในหมู่บ้าน คุณสมศักดิ์เห็นแล้วจึงวิ่งผละจากคนที่กำลังเจรจาอยู่ออกมายืนบนไหล่ถนน ไอ้คนผมหยิกวิ่งตามมาด้วย แต่ก้มหมอบลงต่ำ เพราะว่ากลัวคนในรถจะเห็น

เมื่อแสงไฟจากรถวิ่งเข้ามาใกล้แล้ว คุณสมศักดิ์ยกมือทั้งสองข้างร้องตะโกนด้วยเสียงอันดังสุดแรงเกิด

“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ” พลางยกมือทั้งสองชูขึ้นโบกไปมา แต่ความพยายามของคุณสมศักดิ์ไร้ผลแล้ว เพราะว่ารถคันที่วิ่งมาด้วยความเร็วฝุ่นตลบ ไม่ได้สนใจข้างทางเลยจึงมองไม่เห็นคุณสมศักดิ์ยืนโบกมืออยู่

รถคันนั้นผ่านแวบไปมองเห็นแสงไฟท้ายไกลออกไปทุกที รถคันนี้มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นรถกระบะสองตอนทาสีเลือดหมู

มีไฟสัญญาณแดงๆอยู่บนหลังคาแต่ไม่ได้เปิด ซึ่งเป็นรถตำรวจนั่นเอง ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปที่ไหนจึงขับตะบึงโดยไม่ได้มองข้างทางเลย

คุณสมศักดิ์รู้สึกหมดหวัง นั่งทรุดลงกับพื้นข้างถนน เสียงไอ้ผมหยิกหัวเราะอย่างชอบใจ

“เป็นไงล่ะหมดหวังละซีมึง ที่เปลี่ยวอย่างนี้ไม่มีใครช่วยได้หรอก” และก็หัวเราะด้วยความสะใจ

คุณสมศักดิ์ต้องหาทางรอดด้วยตัวเองแล้วในลักษณะอย่างนี้ ลำพังรถชาวบ้านคงไม่มีใครผ่านมาแล้ว จะมีก็รถเจ้าหน้าที่เท่านั้น และเขาก็วิ่งเลยไปแล้ว บ้านเมืองที่อยู่ห่างไกลก็เป็นอย่างนี้

“เอาไง มึงจะขึ้นรถไปด้วยกันหรือเปล่า” คนผมหยิกบอก แล้วหันไปมองเพื่อนอีกคนหนึ่งที่กำลังคุมเชิงคุณมาลีและลูกสาวอยู่

“คุณอย่ามาบังคับผมมากนักนะ เราตกลงกันแล้วเข้าใจกันแล้วก็ควรจะจบได้แล้วก็แยกย้ายกันไป”

“ไม่ได้หรอก มึงต้องไปกับกู มึงพูดภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง”

แล้วปราดเข้ามาทำท่าจะทำร้ายคุณสมศักดิ์อีก


เมื่อเป็นอย่างนั้น คุณสมศักดิ์จึงตัดสินใจกระชากปืนพกออกจากเอวทันที.......

 

 

ท่องเที่ยวทั่วไทย

 manuspanich250x100