เรารักสุพรรณ สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี

กิจกรรมที่น่าสนใจ ในสุพรรณบุรี

งานแห่เทียนพรรษา สุพรรณบุรี 2561

     งานแห่เทียนพรรษา จังหวัดสุพรรณบุรี ในปี 2561 นี้ ทางจังหวัดสุพรรณบุรี จะจัดให้มีพิธีแห่เทียนพรรษา (ขบวนแห่เทียนพรรษา) ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2561  ...

ถนนหรรษา วินยานุโยค อู่ทอง สุพรรณบุรี

     "ถนนหรรษา วินยานุโยค" จัดขึ้นโดย สำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง (อพท.7) ร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ ชาวบ้านชุมชนศรีสรรเพชญ์พัฒนา ชุมชนต้นแจงพัฒนา และชุมช...

ค่ำคืนอันเลวร้าย 1

โดย Patipat Suwanmutcha

วันนี้สายแล้วสมศักดิ์ ชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งกายด้วยชุดไปท่องเที่ยว ใส่กางเกงยีนส์สวมเสื้อยืดสีเทาแขนสั้น สวมร้องเท้าผ้าใบชั้นดีสีขาว

เขามีอายุเกือบ 50 ปีแล้ว กำลังหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบหนึ่ง ลงมาจากบนบ้านหลังใหญ่ ที่อยู่ในหมู่บ้านชั้นดีแห่งหนึ่งมีรั้วรอบขอบชิด

เขาหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เอามาใส่ไว้ด้านท้ายรถที่เปิดอ้าเอาไว้แล้ว พลางตะโกนร้องเรียกคุณมาลี ซึ่งเป็นภรรยาของเขาและมีวัยใกล้ๆกัน

คุณมาลีเป็นคนสวย รูปร่างสมส่วน สมกับวัย คุณมาลีกำลังดูความเรียบร้อยของกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อีกสองใบอยู่บนบ้าน ซึ่งในวันนี้ทั้งคู่มีโปรแกรมจะเดินทางไปเยี่ยมญาติ ที่ต่างจังหวัดทางภาคเหนือจังหวัดหนึ่ง

คุณสมศักดิ์มีฐานะดีจากการประกอบกิจการค้าระหว่างประเทศ คุณสมศักดิ์มีบริษัทที่ประกอบกิจการ เป็นผู้ส่งออกสินค้าของไทยหลายๆอย่างไปยังต่างประเทศ และซื้อสินค้าจากต่างประเทศด้วย

บริษัทของคุณสมศักดิ์เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของคู่ค้าที่อยู่ต่างประเทศ จากการประกอบกิจการที่เจริญรุ่งเรืองมานี้เอง ทำให้คุณสมศักดิ์มีฐานะร่ำรวย มีบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแต่คนชั้นที่ร่ำรวยมากๆมาซื้ออยู่กัน

คุณสมศักดิ์แม้จะมีฐานะดี มีกิจการที่รุ่งเรือง แต่ก็มีรถยนต์ใช้เพียงสองคันกับภรรยา คนละคันเท่านั้น ไม่ได้เวอร์ถึงขนาดบางคนที่มีเงินแล้ว ซื้อรถยนต์มาจอดทิ้งไว้ที่บ้านหลายๆคัน

รถยนต์ของคุณสมศักดิ์ที่จะเอาเดินทางไปในครั้งนี้ เป็นรถ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ รุ่นใหม่ เป็นแบบแวน กว้างขวางนั่งสบายและมีกำลังเครื่องยนต์ที่แรง วิ่งได้อึดทนในทุกสภาพ ซึ่งเหมาะสมกับถนนหนทางที่จะเข้าไปในไร่ที่บ้านคุณยายที่ต่างจังหวัดนั้นไม่ดีนัก

“ รีบหน่อยนะครับคุณสายแล้ว เราต้องเดินทางอีกไกลมากๆ บอก อินเดียด้วย อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์อยู่ รีบๆหน่อยนะคุณ ” คุณสมศักดิ์ตะโกนบอกภรรยา ที่อยู่บนบ้าน

“อินเดีย”คือลูกสาวคนเดียวของคุณสมศักดิ์และคุณมาลี อินเดียหรือชื่อจริงว่า ” อินทิรา” ที่ทั้งสองตั้งชื่อเรียกเล่นๆกับลูกสาวว่าอินเดียนั้น

ก็เพราะว่า เมื่อคราวที่คุณสมศักดิ์เดินทางไปดูงานที่รัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น อินเดียได้ปฏิสนธิที่นั่น

อีก 8 – 9 เดือนต่อมาอินเดียจึงได้เกิดออกมาดูโลกที่ โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นที่ระลึกเขาจึงได้ตั้งชื่อเล่นๆของลูกสาวว่า” “อินเดีย “

ขณะนี้อินเดียเติบใหญ่ เป็นเด็กที่สวยงาม เฉลียวฉลาด และกำลังเรียนระดับชั้นเตรียมอุดม อยู่ที่โรงเรียนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใน กทม.

อินเดียเป็นเด็กที่เรียนหนังสือเก่ง แต่ทั้งคุณสมศักดิ์และคุณมาลี ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องให้ลูกสาวเรียนอะไรในวันข้างหน้า
เขาคิดว่าลูกสาวจะเรียนอะไรก็ได้ตามที่ใจของลูกสาวต้องการ แต่ขอให้เรียนให้สำเร็จก็แล้วกัน

ขณะนี้โรงเรียนปิดเทอมใหญ่ คุณสมศักดิ์และคุณมาลีเห็นว่าโรงเรียนปิดเทอมใหญ่ จึงได้ชวนลูกสาวไปเยี่ยมคุณยายที่บ้านในต่างจังหวัด และเป็นการพักผ่อนของพวกเขาไปในตัวด้วย

“ค่ะ ค่ะ กำลังรีบอยู่แล้วค่ะคุณ อินเดียเร็วเข้าคุณพ่อเร่งแล้ว อย่ามัวเล่นโทรศัพท์อยู่นะจ๊ะ “
คุณมาลีหันไปเตือนลูกสาว

คุณสมศักดิ์เดินย้อนขึ้นมาบนบ้าน มาหิ้วกระเป๋าอีกสองใบ พร้อมบอกว่า
“ลูกอย่าลืมเอาคันเบ็ดของพ่อไปด้วยนะลูก ที่นั่นมีลำธารน้ำไหลผ่าน เราจะไปตกปลากัน เหมือนเมื่อคราวที่แล้วนะลูก ”

“ค่ะ คุณพ่อ” อินเดียตอบรับ สายตาก็มองดูที่โทรศัพท์ตลอดเวลา
คุณสมศักดิ์หิ้วกระเป๋าสองใบลงจากบ้านไปแล้ว คุณมาลีถือถุงหิ้วสองสามถุงที่ไปซื้อของกินของใช้บางอย่าง ที่ศูนย์การค้ามาเมื่อวานนี้เพื่อจะเอาไปฝากคุณแม่ของเธอ หล่อนเดินลงมาจากตัวบ้านเอามาใส่ท้ายรถ

พร้อมทั้งอินเดียก็ถือคันเบ็ดและมืออีกข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ของเธอตามลงมา ตามที่คุณพ่อสั่งด้วย

“เอาไว้ที่ท้ายรถนะลูก จะได้ไม่เกะกะที่นั่ง หนูจะได้นอนไปหลับสบายด้วย กว่าจะถึงลูกจะได้นอนเต็มอิ่มละนะ” คุณสมศักดิ์บอกลูกสาว

วันนี้อินเดียใส่กางเกงยีนส์ สวมเสื้อยืดที่สแกนตราโรงเรียนที่หน้าอก สวมรองเท้าผ้าใบสีสวยราคาแพง ดูแล้วอินเดียเป็นเด็กที่ สวยน่ารักที่สุดในตอนนี้

“เราสายมากแล้วนะ ระยะทางก็ไกลมาก กว่าจะถึงคงค่ำพอดี ”

คุณสมศักดิ์ปิดประตูท้ายรถเมื่อเห็นว่าสัมภาระทุกอย่างเอาขึ้นรถหมดแล้ว พร้อมทั้งเดินมาเปิดประตูทางด้านคนขับแล้วเข้านั่งประจำที่ และไม่ลืมที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย

คุณมาลีก้าวขึ้นรถที่นั่งคู่กับคนขับ เพราะว่าไปไหนมาไหนคุณมาลีนั่งตรงนี้ประจำอยู่แล้ว อินเดียเปิดประตูหลัง และทุ่มตัวขึ้นไปบนเบาะอย่างสบายใจ ที่เบาะหลังมีหมอน ผ้าห่ม ซึ่งรถคันนี้มีของเหล่านี้ประจำอยู่แล้ว

เนื่องจากคุณสมศักดิ์ไม่ได้จ้างแม่บ้านหรือคนเฝ้าบ้าน ก่อนออกรถคุณสมศักดิ์จึงต้องทบทวนสิ่งต่างๆอีกครูหนึ่ง นึกดูว่าประตูหน้าต่างบ้านปิดเรียบร้อยแล้วทุกบาน ล๊อคกุญแจเอาไว้แล้วอย่างดี

ไฟก็ปิดหมดแล้ว เหลือเพียงไฟที่รั้วประตูหน้าบ้าน ปลั๊กต่างๆที่ไม่จำเป็นต้องเสียบคาไว้ก็ถอดออกหมด

ส่วนไฟในบ้านเปิดทิ้งเอาไว้อีกสองสามที่ น้ำก็ปิดเอาไว้แล้วทุกจุด คุณสมศักดิ์คิดทบทวนดูแล้วก็สบายใจ ที่ต้องรอบคอบมากอย่างนี้ เพราะว่าคราวนี้จะไปหลายวันและไม่มีคนเฝ้าบ้านด้วยนั่นเอง

และเมื่อคุณสมศักดิ์นั่งอยู่ที่นั่งคนขับแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องตรวจดูความเรียบร้อยก็คือ อาวุธปืน ซึ่งคุณสมศักดิ์ต้องมีติดตัวไปด้วยเมื่อเดินทางไปต่างจังหวัด

คุณสมศักดิ์เอื้อมมือเปิดที่เก็บของจุกจิกหน้ารถทางด้านคุณมาลี เพื่อดูว่าอาวุธปืนยังอยู่เรียบร้อยหรือไม่ เห็นปืนและแถบกระสุนยังอยู่เรียบร้อยดี

เพียงแต่ว่าแถบกระสุนไม่ได้บรรจุเอาไว้ในตัวปืนเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันเผื่อว่าภรรยาและลูกสาวจะมาหยิบเล่น

ปืนของคุณสมศักดิ์ซื้อมานานแล้วเป็นปืน ออโต้ ยี่ห้อ กร๊อก 17 (Glock 17) ขนาด 9 มม.ซึ่งมีน้ำหนักเบาใช้งานง่าย คุณสมศักดิ์ไม่เคยได้เอาออกมาใช้เลย เพราะว่าคุณสมศักดิ์ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เพียงแต่มีไว้เพื่อติดตัวในการที่จะเดินทางไปไหนไกลๆเท่านั้น

เมื่อเขาตรวจสิ่งของต่างๆเรียบร้อยเป็นอันแน่ใจแล้ว จึงติดเครื่องยนต์ และเลื่อนรถเพื่อออกเดินทาง เสียงเครื่องยนต์ครางกระหึ่ม กว่าจะได้ออกเดินทางก็ 10 โมงเช้าเข้าไปแล้ว

“เราออกเดินทางกันเลยนะที่รัก ” คุณสมศักดิ์บอกภรรยา

“ค่ะคุณ ไปเลยค่ะ ตั้งใจขับนะคุณ ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ ถึงเมื่อไรก็ช่างมัน รถเราเอง ” คุณมาลีบอก พร้อมกับมองไปข้างหน้า

รถในกรุงเทพฯก็ติดมากเป็นเรื่องปกติของมหานคร กว่าจะออกไปพ้นที่การจราจรคับคั่งก็กินเวลาเป็นชั่วโมง ออกจากรังสิตไปแล้วรถค่อยโล่ง คุณสมศักดิ์ขับอย่างสบายใจ

แรกๆก็คุยกันไปเสียงอินเดียเจื้อยแจ้ว พร้อมกับดูโทรศัพท์ซึ่งกำลังคุย line กับเพื่อนๆอยู่อย่างไม่วางตา

อีกเกือบสองชั่วโมงต่อมารถจึงเข้าเขตุจังหวัดนครสวรรค์ จึงเลยอาหารมื้อเที่ยงไปแล้ว ทุกคนคิดว่ามื้อเที่ยงนี้จะไม่หยุดทานอาหาร เพราะว่าได้เตรียมขนมปังและนมกล่องมาแล้ว กะว่าจะไปกินมื้อเย็นกันที่ใดที่หนึ่งกันเลย

กว่าจะผ่านกำแพงเพชร เข้าจังหวัดพิษณุโลกก็บ่ายมากแล้ว คุณสมศักดิ์จะหยุดรถบ้างก็ตามปั๊มที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อเข้าห้องน้ำ ส่วนภรรยาและลูกก็เข้า Supermarket ที่มีอยู่ตามปั๊มน้ำมันใหญ่ๆโดยเฉพาะปั๊มน้ำมัน ปตท เพื่อซื้อของกินและของขบเคี้ยวบางอย่าง

รถวิ่งออกจากพิษณุโลก ผ่านจังหวัดอุตรดิษฐ์ แล้วขึ้นไปทางจังหวัดแพร๋ เลี้ยวซ้ายผ่านจังหวัดแพร่ไปอีก ซึ่งทางเส้นนี้จะทะลุไปยังจังหวัดพะเยาซึ่งบางตอนเป็นป่าทึบและภูเขาเตี้ยๆ เส้นทางที่แยกเข้าบ้านคุณยายนั้น ยังไม่ถึงตัวจังหวัดพะเยา

ไม่นานนักก็มีทางแยกลงไปทางด้านขวามือเป็นถนนเล็กๆที่จะเข้าไปทางหมู่บ้าน ที่แถวนี้เป็นเรือกสวนไร่นาส่วนใหญ่เป็นไร่ข้าวโพดต้นสูงท่วมหัวทั้งนั้น

โดยมีเสาปักอยู่มีลวดหนามล้อมรอบที่เป็นที่ใครที่มัน ยาวสุดลูกหูลูกตา ตรงช่วงนี้จะไม่มีบ้านคนเลย จะมีบ้างก็เป็นโรงนาและเป็นที่เฝ้าไร่เท่านั้น มองไปข้างหน้าจะเห็นทิวเขาลิบๆอยู่ท่ามกลางอากาศที่เย็นมากแล้ว

อาหารเย็นก็ยังไม่ได้กินกันคิดว่าไปกินกันที่บ้านคุณยายเลย และคิดว่าอีกไม่นานก็จะถึงบ้านคุณยายแล้ว ทั้งสามกินขนมและนมกล่องเข้าไปบ้างแล้วจึงไม่ค่อยรู้สึกหิวเท่าไรนัก

คุณสมศักดิ์เลี้ยวรถวิ่งไปตามถนนเล็กๆลาดยางซึ่งแยกจากทางใหญ่ เป็นถนนที่จะเข้าไปบ้านคุณแม่ของคุณมาลี คุณสมศักดิ์คิดว่าเข้าทางเส้นทางนี้คงไม่ผิดแน่นอน เพราะว่าเคยมาหลายครั้งแล้วแม้ว่านานๆจะมาสักครั้งก็ตาม

ขณะนี้อากาศมืดแล้วต้องเปิดไฟหน้ารถให้ส่องสว่าง ท่ามกลางความเงียบคนทั้งสามไม่ได้คุยอะไรกันเลย จิตใจจดจ่อไปที่บ้านคุณยายแล้ว

บ้านคุณยายอยู่ใกล้เชิงเขาโน้นอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ คุณยายอายุก็มากแล้ว คุณมาลีเคยบอกคุณแม่เสมอว่า อยากให้ไปอยู่ที่กรุงเทพฯด้วยกัน แต่แกก็ไม่ยอมไป

แกบอกว่าเคยอยู่ที่นี่แล้วก็สบายดี มีพี่น้องอีกหลายคนอยู่ด้วยไม่ต้องเป็นห่วงอะไร คุณมาลีก็เลยไม่อยากเซ้าซี้ นานๆคุณมาลีจึงมาเยี่ยมครั้งหนึ่งเหมือนในครั้งนี้

คุณสมศักดิ์ขับรถด้วยความระมัดระวัง มองไปข้างหน้าไม่ละสายตา “ตอนนี้วิ่งมาได้หลายสิบกิโลแล้ว อีกไม่นานก็ถึง “ คุณสมศักดิ์บอกลูกสาว

“คุณพ่อคะ ทำไมตรงนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย หนูติดต่อกับเพื่อนไม่ได้ มันหายไปเฉยๆค่ะพ่อ ” อินเดียบอกคุณพ่อของเธอ

“พ่อก็ไม่รู้นะ ทำไมเขาจึงไม่ตั้งเสาสัญญาณ เป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้วลูก อดทนหน่อยนะที่รัก”
คุณสมศักดิ์บอกลูกแล้วยิ้มให้ พลางมองที่กระจกมองหลัง

“มีคนตามเรามาแล้วละคุณ ผมเห็นมีแสงไฟของรถวิ่งตามเรามาอย่างเร็วด้วยซี ดีแล้วจะได้มีเพื่อนเดินทางกันนะครับ”

คุณสมศักดิ์บอกภรรยา คุณมาลีเอี้ยวตัวมองไปทางด้านหลังรถ ก็จริงอย่างที่สามีบอก

“เดี๋ยวคงตามเรามาทัน ดีแล้วจะได้ไปด้วยกัน คงเป็นคนในหมู่บ้านแหละนะคะ” คุณมาลีบอกสามี

สักครู่หนึ่งรถที่วิ่งตามมานั้นก็มาทันรถคุณสมศักดิ์ซึ่งขับอย่างช้าๆเพราะว่าทางแคบและไม่ดี รถคันที่ตามมานั้นเป็นรถที่เก่ามาก เป็นรถเก๋งสีเทา ซึ่งคงไม่เคยล้างเลย มีฝุ่นจับทั้งคัน

รถคันที่ตามมาเร่งเครื่องทำท่าจะแซง แต่ก็ไม่แซงขับตีคู่มากับรถคุณสมศักดิ์ แม้ว่าคุณสมศักดิ์จะชะลอรถให้แล้วก็ตาม

รถทั้งสองตีคู่กันมาได้เดี๋ยวหนึ่ง คุณสมศักดิ์ ภรรยาและลูก เหลียวมองไปที่รถคันนั้น เห็นมีคนนั่งมาอยู่สามคน สักครู่หนึ่ง คนที่นั่งข้างคนขับท่าทางจะยังอายุไม่เกินสามสิบปี ไว้ผมยาวรุงรังเป็นกระเซิงเปิดกระจกลงมา แล้วตะโกนบอกว่า

“เดี๋ยวคุณ จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน จอดก่อน จอดก่อน ลงมาคุยกันก่อน คุณเบียดรถผมเกือบตกถนน เราต้องคุยกันแล้ว ”

ท่องเที่ยวทั่วไทย

 manuspanich250x100