ออกจากโรงแรมเรือที่ย่างกุ้งกันแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปที่เมืองหงสาวดีกันเลย เพราะว่าในวันแรกที่พวกเรามาเที่ยวที่พม่ากันนั้น ทุกที่ก็จะอยู่ในเมืองย่างกุ้งทั้งนั้น และเมื่อคืนก็ไปจบที่โรงแรมเรือ เป็นอันสิ้นสุดการที่อยู่ในย่างกุ้ง
ในเช้าวันนี้ไกด์ของเรา คือนายซายซาย บอกว่า ในวันที่สองของการที่มาท่องเที่ยวในพม่านี้ พวกเราจะต้องขึ้นไปยังพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งอยู่ในรัฐฉานของประเทศพม่า การเดินทางจะนั่งรถไปหลายชั่วโมง และจะออกเดินทางในตอนเที่ยงแล้ว เพื่อกะว่าจะไปถึงที่นั่นเป็นเวลาเย็นๆพอดี
ดังนั้นในตอนเช้าวันนี้จึงมีเวลาเหลืออีกครึ่งวัน รายการที่จะเที่ยวในเมืองหงสาก็ยังมีอีกสองสามที่ เมื่อรถวิ่งเข้าตัวเมืองหงสาแล้ว ก็ตรงไปยังวัดแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่าวัด ไจ๊ปุ่น KYAIK PUN PAGODA
ตอนนี้เป็นเวลาสายๆแล้ว ก่อนที่รถจะวิ่งวิ่งเข้ามาในบริเวณวัด มองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่เหลืองอร่ามมาแต่ไกล เช้าวันนี้มีรถทัวร์ของนั่งท่องเที่ยวมาจอดบ้างแล้วแต่ยังไม่หนาแน่นมากนัก ก่อนลงจากรถไกด์บอกให้เวลาชั่วโมงเดียว ในการเข้าไปสักการะและเข้าไปทำบุญ
เมื่อลงจากรถกันแล้วก็ทยอยเดินเข้าประตู เพื่อขึ้นไปยังพระองค์ใหญ่ แต่ก็มีบางท่านยังไม่เข้าไปก็มีแต่เดินเลี้ยวอ้อมไปข้างๆวัดเพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัวเสียก่อน สงสัยว่าคงไม่ได้จัดการมาจากโรงแรมเรือเป็นแน่
วัดแห่งนี้ บางท่านที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน หรือเคยได้ยินชื่อมาก่อน จะคิดว่าคือวัดอะไรกัน ในฐานะที่ผมได้ไปเที่ยวมาแล้วก็อยากจะขอบอกให้ท่านทราบสั้นๆนะครับ
วัดไจ๊ปุ่น ตามประวัติสร้างในสมัยเมื่อราว 200 ปีมาแล้ว ครั้งที่หงสาวดีเป็นเมืองหลวงแห่งอาณาจักรมอญ โดยพระราชธิดาทั้ง 4 องค์ของกษัตริย์มอญได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อกันและกันว่า จะรักกันและอุทิศตนเป็นอุบาสิกาอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาตลอดไป โดยจะไม่อภิเษกสมรสเป็นอันขาด
พระราชธิดาทั้ง 4 องค์จึงได้สร้าง พระพุทธรูป 4 องค์นั่งหันหลังชนกัน ณ วัดไจ๊ปุ่น ต่อมาพระธิดาองค์สุดท้องได้ผิดสัญญา พระพุทธรูปองค์หนึ่งได้เกิดปฏิหาริย์พังทลายลงมา
ในปัจจุบันนี้ถ้าได้ไปสักการะสังเกตที่พระพักต์ของพระพุทธรูป จะมีองค์หนึ่งที่พระพักต์ผิดแปลกกว่าองค์อื่นๆ ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมแบบพม่า ที่ว่าผิดแปลกไปนี้ก็เพราะได้ซ่อมแซมขึ้นภายหลัง ต่างจากองค์อื่นๆอีก 3 องค์ ที่มีพระพักต์ เป็นรูปวงรี (รูปไข่) แบบมอญ ซึ่งเป็นองค์เดิม ตั้งแต่แรกสร้างนั่นเอง
พวกผมสักการะเสร็จแล้วก็เดินดูรอบๆ แล้วก็ถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้มาเที่ยวที่นี้แล้ว
สถานที่นี้เขาเก็บค่ากล้องถ่ายรูปประมาณ 200 จั๊ต (6 บาท) เท่านั้นเอง ซึ่งสถานที่เที่ยวบางแห่งก็ไม่เสียเงินครับ แต่ถ้าต้องเสียก็ควรให้เขาด้วยความเต็มใจ คิดเสียว่าทำบุญช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายของวัดแห่งนี้ด้วยครับ
ทางด้านทางลงมีร้านขายของจำนวนสองสามร้าน โดยมากเป็นของที่ระลึก มีร้านหนึ่งซึ่งมีนักท่องเที่ยวยืนออกันอยู่ เขากำลังซื้อระฆังทองเหลืองลูกเล็กๆซึ่งมีใบโพธิ์ห้อยอยู่ ได้ยินว่าเขาซื้อระฆังนี้เพื่อเอาไปสักการะที่พระธาตุอินทร์แขวน เหตุที่ซื้อตรงนี้ ก็เพราะว่าที่นี่น่าจะถูกกว่าไปซื้อข้างบนพระธาตุเป็นอันมาก ผมก็เลยซื้อระฆังเล็กๆจากที่ร้านนี้กับเขาเหมือนกันครับ



หลวงจีนจากเวียตนาม กำลังซื้อระฆังทองเหลืองใบเล็กๆที่นี่ เพื่อเอาไปสักการะที่พระธาตุอินทร์แขวน ที่รู้เพราะไปเจอกันที่นั่นกับทัวร์ของเวียตนาม


ด้านหน้าวัดไจ๊ปุ่น ก่อนจะขึ้นรถ
อากาศเริ่มจะร้อนแล้ว ผมและคุณหวานออกมาจากวัดไจ๊ปุ่น จะลงมาที่จอดรถ เห็นพวกเราที่มาด้วยกันยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ก่อนแล้ว ยังไม่ถึงเวลาที่ไกด์ได้นัดเอาไว้เลยก็ลงมากันเสียเกือบหมดแล้ว
ก่อนขึ้นรถกลับ ซื้อน้ำอัดลมกินแก้กระหายน้ำ กระป๋องละ 1,000 จั๊ด
เพื่อนที่ไปด้วยกัน ขอไปเซลฟี่ก่อนรถจะออก
เมื่อถึงเวลารถก็เคลื่อนออกจากวัดไจ๊ปุ่น เพื่อเดินทางไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งก็อยู่ในเมืองหงสาเช่นเดียวกัน
ติดตามตอนต่าง ๆ ของเรื่อง "ไปเที่ยวพม่า" ได้ตามลิงค์ข้างล่างครับ
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 1 เตรียมการเดินทางไปพม่า
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 2 ความรู้ต่างๆจากไกด์ชาวพม่า
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 3 พระเจดีย์กลางน้ำเยเลพญา ที่เมืองสิเรียม
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 4 อาหารมื้อแรกที่เมืองย่างกุ้ง
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 5 พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี และ เทพกระซิบ
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 6 นัตโบโบยี (natboboyee) หรือเทพทันใจที่เมืองย่างกุ้ง
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 7 ตลาดสก๊อตที่ย่างกุ้ง (Scott Market)
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 8 พระมหาเจดีย์ ชเวดากอง
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 9 โรงแรมเรือVintage Luxury Yacht Hotel ที่เมืองย่างกุ้ง
- ไปเที่ยวพม่า ตอนที่ 10 วัดไจ๊ปุ่น (KYAIK PUN PAGODA) ที่หงสาวดี (ตอนที่กำลังเปิดอยู่นี้)